3 สูตรลับ Copywriting สำหรับโฆษณาบน Instagram

ปัจจุบันคุณอาจกำลังโฆษณาบน Facebook หรือ Twitter อยู่แล้ว แต่บางคนอาจมองข้ามโฆษณาบน Instagram ไป แพลตฟอร์มเหล่านี้ถือเป็นเครื่องมือชั้นเยี่ยมเพื่อผลักดันยอดขาย

อย่างไรก็ตาม Facebook และ Twitter แตกต่างจาก Instagram ตรงที่ Instagram จะเน้นไปที่กราฟิกมากกว่า ด้วยเหตุนี้เจ้าของธุรกิจจำนวนมากจึงคิดไปเองว่าพวกเขาสามารถมองข้ามคุณภาพของคำบรรยายภาพบน Instagram ได้

จริง ๆ แล้ว ผู้คนนั้นอ่านคำบรรยายภาพเมื่อพวกเขาดูโฆษณาบน Instagram ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่เขียนลงไปในคำบรรยายภาพนั้นสำคัญไม่แพ้กัน

อย่างที่รู้กันว่าการสร้างคำบรรยายที่โดน ๆ น่าดึงดูดนั้นจะเกี่ยวข้องกับ Copy เป็นหลัก การดึงดูดผู้คนทางออนไลน์โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านตัวอักษรอาจเป็นงานที่ยาก แล้วคุณจะทำอย่างไรให้โฆษณา Instagram ของคุณดึงดูดความสนใจของผู้คน?

ให้คุณเริ่มต้นโดยการจ้าง Copywriter โซเชียลมีเดียที่รู้วิธีการโฆษณาผ่าน Instagram และมีความคุ้นเคยกับการใช้งานของ Instagram ทั้งนี้ผู้เชี่ยวชาญด้าน Copywriting บน Instagram สามารถสร้างโฆษณาบน Instagram ที่ดึงดูดความสนใจได้อย่างดี บทความนี้จะมาเสนอ 3 สูตรลับ Copywriting สำหรับ Instagram ที่ถูกใช้โดย Copywriter เพื่อให้โฆษณาของคุณโดดเด่นจากคู่แข่งและดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายของคุณ

 

1. ใช้คำอธิบายภาพโดน ๆ และมีพลัง

Instagram ไม่ได้เกี่ยวกับรูปภาพเพียงอย่างเดียว จริง ๆ แล้วคำอธิบายรูปภาพที่เขียนมาอย่างดีสามารถสร้างผลลัพธ์ได้เช่นเดียวกันกับรูปภาพ การดูโพสต์โดยทั่วไปบน Instagram จะมีกระบวนการอยู่สองขั้นตอนคือ การเริ่มต้นดูที่รูปก่อนแล้วจากนั้นก็ไปดูที่คำอธิบายภาพ เมื่อกลุ่มเป้าหมายอ่านคำอธิบายภาพของคุณ หมายความว่าคุณได้สร้างแรงดึงดูดจากพวกเขาได้สำเร็จและพวกเขากำลังมองหาบางอย่างที่จะดึงความสนใจของพวกเขาลึกลงไปอีกจนไม่อยากเลื่อนหนีจากโพสต์ของคุณไปได้

และสิ่งนี้เองที่การจ้าง Copywriter จะเป็นประโยชน์ Copywriter มืออาชีพสามารถช่วยทำให้โฆษณาของคุณโดดเด่นในฟีดข่าวของลูกค้าของคุณด้วยคำบรรยายที่สะดุดตาและน่าสนใจ

การใช้คำโดน ๆ และมีพลังเพื่อสร้างและกระตุ้นอารมณ์เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพอย่างมากและเหมาะสำหรับคำบรรยายภาพบน Instagram ตัวอย่างเช่น สมมติว่าบริษัทผลิตรองเท้าที่เน้นทำตลาดกับกลุ่มนักกีฬาหนุ่ม ๆ ได้ออกคำอธิบายสินค้ารองเท้าผ้าใบแนวใหม่

ถือเป็นเรื่องปกติที่จะเขียนคำอธิบายสินค้ารองเท้าผ้าใบนี้ว่า “เพรียวบางและยอดเยี่ยมสำหรับนักกีฬา” แต่ภาษาแบบนี้มันไม่ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมากมายอะไร

คำอธิบายภาพที่ดีกว่าสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายด้วยคำที่สร้างจินตนาการให้เห็นภาพและทรงพลัง แทนที่จะใช้คำอธิบายภาพตามข้อเสนอข้างต้น บริษัทผลิตรองเท้าได้ใช้คำอธิบายภาพใหม่ว่า “เสริมความทนทาน เพรียวบาง เหมาะสำหรับแชมป์เปี้ยน” แทน

การใช้ประโยคสั้น ๆ และย่อหน้าสั้น ๆ นั้นเป็นอีกหนึ่งสูตรลับในการดึงดูดความสนใจ

การใช้ภาษาที่ทรงพลังนั้นมีแนวโน้มที่จะดึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเข้ามาและทำให้พวกเขามีความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของคุณมากขึ้น

 

2. จำกัดการใช้ Hashtag ในคำบรรยายภาพและใช้เฉพาะคำที่เกี่ยวข้อง

Hashtag เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเพิ่มการแสดงผลของโฆษณาของคุณ แต่การใช้ Hashtag มาก ๆ ก็ไม่ส่งผลดีเสมอไป ดังนั้นแทนที่จะใช้ Hashtag ในคำอธิบายภาพที่ทำให้หัวข้อของคุณดูคลุมเครือ ให้คุณลองจำกัดการใช้ Hashtag อย่างระมัดระวังเป็นพิเศษให้เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่คุณเลือกดู

ตัวอย่างเช่น คุณกำลังรวบรวมแคมเปญโฆษณาบน Instagram สำหรับอุปกรณ์ใช้ออกกำลังกายที่บ้านของบริษัทคุณ กรณีนี้มี Hashtag ที่เกี่ยวกับฟิตเนสอยู่มากมายนับพันบน Instagram พร้อมกับอีกหลายพันโพสต์ในแต่ละ Hashtag

เป็นเรื่องปกติที่จะใช้ Hashtag อย่าง #ฟิตเนส #เข้ายิม #เล่นกล้าม #ออกกำลังกายที่บ้าน และอื่น ๆ อีกมากมายเพื่อเพิ่มการมองเห็น แต่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งนี้ทำให้คำบรรยายภาพของคุณดูไม่น่าดึงดูดและดูยุ่งเหยิง ไม่น่าดู

หากคุณต้องการ Hashtag เพิ่มเติม คุณควรใส่มันไว้ในคอมเม้นท์ใต้ภาพของคุณแทน

สำหรับคำอธิบายภาพ ให้คุณเลือก Hashtag สองถึงสามอย่างที่นิยมและเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ที่คุณโฆษณามากที่สุด ในกรณีนี้ #ฟิตเนส และ #ออกกำลังกายที่บ้าน เป็นตัวเลือกที่ดีเนื่องจากทั้งสอง Hashtag เป็นที่นิยมและเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของคุณ

นอกจากนี้ การสร้าง Hashtag ที่ติดหูเป็นของคุณเองก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ยอดเยี่ยมในการสร้างส่วนร่วมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและ Hashtag สามารถเป็นได้แม้กระทั่งสโลแกนของบริษัทคุณ ยิ่ง Hashtag ที่ดูไม่ซ้ำใครก็จะยิ่งทำให้การสื่อสารออนไลน์ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของคุณกระจายไปไกลมากขึ้นผ่าน Hashtag

 

3. มีการกระตุ้นการมีส่วนร่วม ไม่เพียงแค่โปรโมตอย่างเดียว

Hashtag ไม่ใช่วิธีเดียวที่จะสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ การส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมนั้นเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากและสามารถทำได้หลายวิธี

การโพสต์ซ้ำถือเป็นวิธีหลักในการสนับสนุนให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้มีส่วนร่วมกับบริษัทของคุณ หากมีใครบางคนโพสต์รูปถ่ายของตัวเองที่ใช้สินค้าหรือบริการของคุณ คุณควรให้พวกเขารู้ว่าบริษัทของคุณใส่ใจด้วยการโพสต์ภาพของพวกเขาในหน้าเพจของคุณ

ซึ่งนี่เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการกระตุ้นการมีส่วนร่วมและโน้มน้าวใจกลุ่มลูกค้าทั้งใหม่และเก่าที่บริษัทของคุณใส่ใจด้วยการให้ความสำคัญ

นอกจากนี้การใช้คำบรรยายภาพของคุณเพื่อให้ผู้คนรู้ว่าบริษัทของคุณมีโปรแกรมสมาชิกหรือรางวัลก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดี หรือกระทั่งการใช้ดีลพิเศษสำหรับผู้ติดตาม เพื่อบอกให้พวกเขารู้ว่าคุณต้องการให้พวกเขาได้รับข้อเสนอที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้และติดตามสิ่งที่คุณเสนออยู่สม่ำเสมอ 

 

บทสรุป

หากคุณต้องการให้โฆษณาบน Instagram ของคุณโดดเด่น 3 สูตรลับ Copywriting นี้จะช่วยให้คุณไปถึงจุดหมายได้เร็วขึ้น

ใช้คำอธิบายภาพที่มีพลัง – ใช้คำโดน ๆ และทรงพลังเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ดียิ่งขึ้น

จำกัดการใช้ Hashtag และใช้เฉพาะคำที่เกี่ยวข้อง – ใช้เฉพาะคำที่ได้รับความนิยมและเกี่ยวข้องเพียงไม่กี่ข้อและทดสอบด้วยการสร้าง Hashtag ของคุณเองเพื่อหลีกเลี่ยงคำอธิบายภาพที่ยุ่งเหยิง ไม่น่าดู

กระตุ้นการมีส่วนร่วม – บอกให้ลูกค้าของคุณรู้ว่าคุณใส่ใจด้วยการสนับสนุนให้พวกเขามีส่วนร่วมกับคุณบนโซเชียลมีเดีย

คุณอาจพอนึกภาพออกแล้วว่าการเขียน Copywriting นั้นใช้เวลาแค่ไหน แต่โชคดีที่คุณไม่ต้องลงมือเขียนด้วยตัวเอง และคุณสามารถใช้เวลาไปกับสิ่งอื่นที่คุณถนัด เพียงแค่เลือกจากเครือข่าย Copywriter มืออาชีพ และปรึกษากับ Copywriter โซเชียลมีเดียกับเราวันนี้