3 เทคนิกการตลาดด้วยอีเมลเพื่อเพิ่มอัตราการเปิดอ่าน

การทำการตลาดด้วยอีเมลไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คุณคิด หากคุณเป็นนักการตลาด คุณย่อมรู้เรื่องนี้ดี คุณอาจใช้เวลาหลายชั่วโมงเพื่อเนรมิต Copy หรืองานเขียนส่งอีเมลแล้วคอยหวังผลกับ Copy ที่ส่งไป 

ถ้าคุณได้ลองเขียน Copy เพื่อทำการตลาดด้วยอีเมลแล้วคุณจะรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะดึงดูดลูกค้าและเพิ่มอัตราการเปิดอ่าน แต่เมื่อใช้ Copy ที่เขียนอย่างถูกวิธีในการทำการตลาดผ่านอีเมล คุณจะรู้ว่าอีเมลนั้นเป็นเครื่องมือที่ผลักดันยอดขายที่ดีเยี่ยมเลยทีเดียว และยังทำหน้าที่เสมือนช่องทางกระจายสินค้าหรือบริการของคุณโดยเฉพาะ

ก่อนอื่นเลย อีเมลสามารถแจ้งให้ลูกค้าปัจจุบันทราบเกี่ยวกับสินค้า บริการ และการพัฒนาใหม่ ๆ จึงทำให้อีเมลเป็นหนทางที่ดีในการติดต่อกับฐานลูกค้าของคุณอยู่ตลอด

การสร้างลิสต์รายชื่อของคนที่เป็นสมาชิกรับข่าวสารหรือ “Subscriber” จากอีเมลของคุณนั้นเป็นเรื่องที่ดี แต่คำถามคือ คุณจะทำอย่างไรให้พวกเขาเปิดอ่านอีเมลของคุณ? นั่นอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนมุมมองของคุณในการทำการตลาดผ่านอีเมล

ลูกค้าของคุณบางคนไม่ต้องการเสียเวลา บางทีพวกเขาแค่กด Subscribe เพื่อจุดประสงค์บางอย่าง แต่พวกเขาก็ยังไม่คลิกอะไรที่ดูไม่น่าสนใจสำหรับพวกเขาอยู่ดี ดังนั้นการกระตุ้นความสนใจของลูกค้าเหล่านี้จึงเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุดในการเขียน Copy สำหรับอีเมล

หากคุณกำลังประสบปัญหากับการตลาดด้วยอีเมล 3 เคล็ดลับการตลาดด้วยอีเมลในบทความนี้จะช่วยทำให้ Subscriber ของคุณสนใจและเพิ่มอัตราการเปิดอ่านอีเมลของคุณมากขึ้น

 

1. สร้างหัวเรื่องให้เกี่ยวข้องกับข้อมูลกลุ่มเป้าหมาย

เมื่อคุณต้องการเพิ่มอัตราการเปิดอ่านอีเมล ให้คุณดูที่ Subject Line หรือ หัวเรื่องของคุณก่อน และให้คิดเสมือนว่าเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตาย เพราะอะไร? เพราะไม่ว่าคุณจะมีงานเขียน Copy ที่ยอดเยี่ยมแค่ไหน ถ้าลูกค้าของคุณไม่เปิดอ่านก็ไม่มีความหมาย จริงไหม?

ฉะนั้นให้คุณถามคำถามตัวเองต่อไปนี้เมื่อคุณเขียน Subject Line

  • Subject Line เกี่ยวข้องกับข้อมูลกลุ่มเป้าหมายไหม?
  • Subject Line ตรงประเด็นไหม?
  • ถ้าเป็นคุณเอง คุณจะเปิดอ่าน Subject Line นี้ไหม?

คุณสามารถใช้สูตรในการเขียน Subject Line ตามที่คุณรู้มาจากกูรูหลาย ๆ ท่านได้ แต่คุณไม่จำเป็นต้องตามสูตรพวกนั้นเสมอไป เพราะอะไร? เพราะว่ามันไม่มีสูตรตายตัวในการเขียนหัวเรื่องโดน ๆ

แต่ก็ยังมีวิธีที่ถูกต้องอยู่ในการเขียน Subject Line ที่ดีและดึงดูด นั่นคือคุณต้องใช้เวลานั่งคิดว่าจะเขียน Subject Line นี้ว่าอะไร ไม่เช่นนั้น อีเมลของคุณก็จะไปจมรวมอยู่ในเมลขยะหรือ Junk Mail ของลูกค้าของคุณก็ได้

การตลาดด้วยอีเมลหมายถึงการจุดประกายความต้องการในตัวลูกค้าของคุณ และการทำให้แน่ใจว่าอีเมลของคุณสะดุดตามากกว่าอีเมลอื่น ๆ นั้น การมีหัวเรื่องที่น่าสนใจหมายถึงโอกาสที่ลูกค้าจะเปิดอ่านอีเมลของคุณมากขึ้นและเริ่มติดต่อกับธุรกิจของคุณผ่าน Copy นี้

 

2. ความเป็นกันเองเสมือนเพื่อนระหว่างคุณกับลูกค้า

ลูกค้าของคุณได้ใช้เวลาในการสมัครสมาชิกรับข่าวสารกับบริษัทของคุณ ในการที่พวกเขาอยู่ในลิสต์อีเมลของคุณหมายความว่าในช่วงเวลาหนึ่งพวกเขาสนใจอยากรู้ข่าวสารใหม่ ๆ ในตัวสินค้าหรือบริการของคุณ

ในทางกลับกันคุณควรให้พวกเขารู้ว่าคุณก็ใส่ใจดูแลธุระของพวกเขาเช่นกัน เมื่อคุณร่างอีเมลเพื่อส่งไปยังสมาชิกของคุณ ให้คุณพิจารณาถึงภาษาที่คุณจะใช้ว่าดูติดขัดไหม? เป็นทางการไปไหม? 

ลองนึกภาพดูว่าบริษัทคุณกำลังมีโปรโมชันลดราคาก่อนปีใหม่ ในฐานะนักการตลาด คุณกำลังส่งอีเมลจำนวนมากไปยังฐาน Subscriber ของบริษัท เพื่อให้พวกเขารับรู้ถึงโปรโมชันลดราคาที่กำลังจะมาถึง แล้วหัวเรื่องที่คุณเขียนส่งไปคือ

“ลดสูงสุด 50% ทั้งร้าน! โปรลดราคาก่อนปีใหม่ เริ่ม 29 พฤศจิกายนนี้!”

บ่อยครั้งที่สมาชิกรับข่าวสารของคุณจะเห็นว่านี่เป็นสแปม ดูหลอกลวง ทั้ง ๆ ที่พวกเขายังไม่เห็นตัวเลขลดราคาและวันที่ด้วยซ้ำ แล้วพวกเขาก็มองข้ามอีเมลของคุณไป คุณคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นจริงไหม? กรณีนี้ให้คุณลองเขียนหัวเรื่องแบบนี้แทน

“กำลังหาของขวัญปีใหม่อยู่? ไม่ต้องห่วง เราเตรียมไว้ให้คุณแล้ว…”

ไม่เพียงแต่ภาษาประเภทนี้ดูน่าดึงดูดยิ่งขึ้น แต่ยังสร้างความคาดหวังให้กับผู้อ่านมากขึ้นอีกด้วย

การใช้ภาษาที่เป็นกันเองเป็นวิธีที่รวดเร็วและง่ายในการทำให้หัวเรื่องหรือเนื้อหาอีเมลของคุณน่าสนใจยิ่งขึ้น และยังทำให้ลูกค้าของคุณรู้สึกว่าบริษัทของคุณใส่ใจในธุระของพวกเขาด้วย หากการผลักดันยอดขายคือเป้าหมายหลักของคุณแล้วล่ะก็ การทำให้ลูกค้าของคุณสนใจและมีส่วนร่วมนั้นคือเรื่องที่ขาดไม่ได้

 

3. ให้แรงจูงใจตามอัตราการเปิดอ่านปัจจุบัน

ตอนนี้คุณคงรู้อยู่แล้วว่า Subscriber ที่มีส่วนร่วมกับอีเมลของคุณเป็นประจำมีกี่คน แต่คุณรู้หรือเปล่าว่าใครบ้างที่เป็นผู้ที่มีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ของคุณ?

คุณอาจจะรู้หรือไม่รู้ก็ตาม แม้ว่าจะมีวิธีมากมายในการแบ่งกลุ่มลิสต์ผู้รับอีเมล แต่การแบ่งกลุ่มตามอัตราการมีส่วนร่วมอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี สิ่งนี้จะช่วยให้คุณสามารถมั่นใจได้ว่าผู้ที่ติดตามสินค้าหรือบริการของคุณเป็นประจำจะได้รับการตอบแทนเป็นสิ่งจูงใจต่าง ๆ

สิ่งจูงใจเหล่านี้อาจหมายถึงการเสนอโปรโมชันพิเศษ ข้อเสนอโดน ๆ หรือแม้กระทั้งการแจ้งให้พวกเขารู้เกี่ยวกับโปรโมชันลดราคาก่อนสมาชิกรับข่าวสารรายอื่น ๆ

การทำสิ่งนี้จะทำให้ Subscriber ของคุณมีแนวโน้มที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสที่คุณเสนอให้ และหากทำควบคู่ไปกับการเขียน Copy ที่น่าดึงดูดยิ่งขึ้นด้วยล่ะก็ มันจะช่วยให้คุณมียอดขายเพิ่มขึ้นจากลูกค้าทั้งหมดของคุณแม้แต่คนที่เคยซื้อสินค้าหรือบริการของคุณไปแล้วก็ตาม

 

บทสรุป 

หากคุณกำลังมองหากลยุทธ์การตลาดด้วยอีเมลที่ดีขึ้นเพื่อเพิ่มอัตราการเปิดอ่านอีเมลของคุณ เราแนะนำให้คุณลองเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ในครั้งต่อไปที่คุณเขียนถึงลูกค้าของคุณ

ทำหัวเรื่องให้น่าสนใจ – หลีกเลี่ยงสูตรหรือเทมเพลตอีเมลที่มากเกินไป และใช้เวลาคิดและเขียนหัวเรื่องที่ดึงดูดความสนใจผู้อ่านแทน

เป็นกันเองกับลูกค้า – ใช้ภาษาในเชิงเชิญชวนและเป็นกันเองเพื่อให้ผู้อ่านของคุณสนใจและรู้สึกถึงความห่วงใย

พิจารณาอัตราการเปิดอ่าน – แบ่งลิสต์อีเมลของคุณตามอัตราการมีส่วนร่วมและตอบแทนลูกค้าประจำ

ถ้าต้องการความช่วยเหลือด้านการเขียน Copy การตลาดด้วยอีเมล หรืออยากลดความปวดหัวที่จะต้องมานั่งคิดเรื่องงานเขียนอีเมลล่ะก็ จองและปรึกษาเราวันนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้เลย