การจ้าง Marketing Copywriter หรือ Copywriter ด้านการตลาดสามารถช่วยเพิ่ม Conversion สำหรับบริษัทอีคอมเมิร์ซหรือธุรกิจออนไลน์ของคุณได้ บางทีโฆษณาของคุณตอนนี้อาจมีคนเห็นอยู่พอสมควร แต่มีคนคลิกไม่เยอะอยู่หรือเปล่า? หรือบางทีคุณอาจมีปริมาณผู้เข้าชมตามที่ต้องการ แต่ไม่เห็น Conversion ที่คุณต้องการอยู่หรือเปล่า? กรณีนี้ Copywriter ด้านการตลาดที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างมืออาชีพสามารถช่วยคุณได้

คุณอาจเคยได้ยินวลีว่า “If you build it, they will come.” จากหนังเรื่อง Field of Dreams หรือเปล่า? วลีนี้แปลว่า “ถ้าคุณสร้างอะไรมา เดี๋ยวคนก็จะมาเอง” ในขณะที่วลีนี้อาจใช้ได้ผลกับในหนังหรือโมเดลธุรกิจในอดีต ปัจจุบันคุณรู้ว่าคุณไม่สามารถสร้างสินค้าอะไรขึ้นมาและคาดหวังให้ผู้คนค้นพบได้ด้วยตนเอง จริงไหม?

อย่างไรก็ตาม เจ้าของธุรกิจจำนวนมากยังยึดวลีนี้ไปใช้ใน Copy ของพวกเขาอยู่ พวกเขาเชื่อประมาณว่า “ตราบใดที่ Copy มีข้อมูลเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าของเรา เดี๋ยวก็จะมีใครบางคนมาซื้อเอง” และนั้นคือความเข้าใจที่ผิด

ซึ่งความเข้าใจแบบนี้จะส่งผลให้เจ้าของธุรกิจจำนวนมากมีอัตรา Conversion แบบดิ่งลงเหว เพราะมันจะลดประสิทธิภาพของโฆษณา หน้าเว็บไซต์ หน้า Landing Page รายชื่อสินค้า อีเมล และจุดอื่น ๆ ในการทำการตลาดลง

แล้วจะมีวิธีเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ไหม? คำตอบคือมี!

คุณต้องโฟกัส Copy ของคุณไปที่อัตรา Conversion และการมี Copywriter ด้านการตลาดมาออกแบบ Copy ให้นั้นสามารถทำให้อัตรา Conversion ของคุณดีขึ้นในแต่ละขั้นตอน อาทิเช่น

• อัตราการคลิกโฆษณาของคุณจะดีขึ้น
• อัตราการเปิดอีเมลอ่านของคุณจะเพิ่มขึ้น
• อัตราการเลือกเข้าร่วมรับข่าวสารของคุณจะเพิ่มขึ้น

สมมติว่า Copywriter ด้านการตลาดของคุณทำในส่วนของ Copy เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซหรือ Funnel ของคุณให้ดีขึ้นเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์ที่คุณน่าจะเห็นได้คือรายได้โดยรวมที่จะเพิ่มขึ้นอยู่ดี

และนี่คือ 3 วิธีที่ Copywriter ด้านการตลาดสามารถช่วยเพิ่มอัตรา Conversion ให้กับคุณ

 

1. ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่พิสูจน์มาแล้ว

เมื่อ Copywriter ด้านการตลาดเขียนงาน Copy พวกเขาจะรู้ว่า Copy ที่พวกเขากำลังเนรมิตจะใช้ประโยชน์จากหลักการ AIDA ได้อย่างไร ตอนนี้คุณอาจจะมีคำถามว่า AIDA คืออะไร มันคือตัวย่อที่ย่อมาจาก:

A – ดึงดูดความสนใจ (Attention)

I – สร้างความสนใจ (Interest)

D – ทำให้เกิดความต้องการ (Desire) 

A – กระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจ (Action)

ด้วยการใช้หลักการ AIDA ในกลยุทธ์การตลาดของคุณ คุณสามารถเปลี่ยนลูกค้าของคุณจากขั้นตอนการรับรู้แบรนด์ไปยังขั้นตอนการตัดสินใจ กล่าวอีกนัยหนึ่งหลักการนี้สามารถนำลูกค้าจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่งเหมือน Funnel และไปจบที่ Conversion ในที่สุด

แล้ววิธีนี้จะได้ผลกับคุณจริงหรือ?

ขั้นแรกของหลักการนี้คือการดึงดูดความสนใจต่อแบรนด์ของคุณ คุณสามารถทำได้โดยต้องรู้จักผู้ชมของคุณอย่างดีที่จะดึงปัญหา (Pain Point) และความปรารถนาของพวกเขาออกมา

ทีนี้เมื่อคุณดึงดูดความสนใจพวกเขาได้แล้ว ขั้นต่อไปคือการสร้างความสนใจ หากคุณเริ่มพูดถึงปัญหาหรือ Pain Point ของพวกเขาในแบบที่ทำให้พวกเขารู้สึกว่าคุณเข้าใจ พวกเขาจะต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม

Dean Graziosi ได้กล่าวไว้ว่า “ผู้คนจะเชื่อในตัวคุณเมื่อพวกเขารู้สึกได้รับความเข้าใจ ไม่ใช่เมื่อพวกเขาเข้าใจคุณ” 

ขั้นต่อไปคือการเอาความสนใจนั้นไปทำให้เกิดความต้องการ บางคนคิดว่าแค่ได้รับความสนใจมาน่าจะพอแล้วไม่ใช่หรือ? หากไม่มีความปรารถนาอันแรงกล้า คุณจะไม่ได้ลูกค้าที่จะตัดสินใจซื้อในภายหลัง โดยวิธีที่ดีที่สุดคือการทำให้พวกเขาเห็นว่าพวกเขาจะได้อะไรที่หวังไว้หรือไปถึงจุดหมายปลายทางด้วยความช่วยเหลือของสินค้าหรือบริการที่คุณเสนอ

ขั้นตอนสุดท้ายคือการโน้มน้าวให้ลูกค้าเกิดการตัดสินใจ โดยทั่วไปแล้ว วิธีที่ดีที่สุดคือโน้มน้าวด้วยความชัดเจนและรัดกุม บอกลูกค้าของคุณตรง ๆ ว่าคุณต้องการให้ลูกค้าทำอะไร ซึ่งจุดนี้จะอธิบายเพิ่มเติมในส่วนถัดไป

 

2. สร้าง Copy เพื่อกรองลูกค้า

คุณรู้ไหมว่าผู้คนเห็นโฆษณามากถึง 5,000 โฆษณาต่อวัน? คุณลองนึกภาพดูว่ามันมากแค่ไหนที่จะทำให้พวกเขารู้สึกเฉยชาต่อโฆษณาต่อ ๆ ไป

แต่สิ่งหนึ่งที่ Copywriter ด้านการตลาดสามารถช่วยคุณได้คือการเพิ่มอัตราการคลิกโดยการใช้ Copy โน้มน้าวใจ ทุกขั้นตอนของ Funnel ของคุณมักจะมีจุดหนึ่งที่มีเปอร์เซ็นต์ Conversion ดิ่งลดลง

แล้วคุณควรจะโฟกัสความพยายามของคุณที่ไหนก่อนดี? หากคุณไม่แน่ใจ ให้ Copywriter ด้านการตลาดของคุณวินิจฉัยว่าขั้นตอนใดที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่ามาตรฐาน

หลังจากระบุได้แล้ว ต่อไปก็เป็นการใช้กลยุทธ์ที่ถูกต้องในขั้นตอนนั้นเพื่อเพิ่มอัตราการคลิก สิ่งนี้จะช่วยให้ลูกค้าของคุณเลื่อนไปยังขั้นถัดไปใน Funnel การตลาดของคุณ

มีอยู่สองส่วนที่มักสร้างความแตกต่างที่สำคัญคือหัวเรื่อง (Headline) และคำกระตุ้นการตัดสินใจ (CTA)

หัวข้อจะอยู่ที่จุดเริ่มต้นบนสุด

CTA หรือ Call To Action โดยทั่วไปจะอยู่ในส่วนท้าย

ในเมื่อ CTA อยู่ตรงส่วนท้าย มันจึงเป็นสิ่งสุดท้ายที่ลูกค้าเห็นก่อนที่จะย้ายไปยังขั้นต่อไปของ Funnel ดังนั้นจึงต้องมีความชัดเจน กระชับได้ใจความ และน่าดึงดูด ซึ่งมันชักชวนให้ลูกค้าทำในสิ่งที่คุณต้องการให้พวกเขาทำต่อไป

แล้วตรงหัวเรื่องล่ะ? จริง ๆ แล้วมันเป็นเรื่องสำคัญยิ่งกว่าที่จะเพิ่มประสิทธิภาพในส่วนหัวเรื่องเนื่องจากมันเป็นจุดแรกที่ลูกค้าเห็น คุณสามารถทำได้โดยค้นหาวิธีที่ไม่ซ้ำใครและสร้างสรรค์เพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้องและความเฉพาะเจาะจง

เมื่อความเกี่ยวข้องและเฉพาะเจาะจงได้ดึงดูดผู้ชมที่เหมาะสม พวกเขาจะมีความอยากรู้อยากเห็นเพิ่มเติมเมื่ออ่านหัวเรื่อง หากพวกเขาไม่ผ่านจุดนั้นไป มันจะเป็นไปไม่ได้เลยที่พวกเขาจะอ่านไปถึง CTA ตรงส่วนท้าย

คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคุณมีหัวเรื่องที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด?

วิธีเดียวที่หาหัวข้อที่มีประสิทธิภาพที่สุดคือการสร้างหัวเรื่องสองถึงสามรูปแบบและแยกทดสอบกันเองกับแต่ละหัวเรื่อง จากนั้นคุณตรวจสอบข้อมูลและดูว่าหัวเรื่องใดแสดงผลลัพธ์ได้ดีที่สุด และเอาหัวเรื่องนั้นเป็นฐาน Copywriter ด้านการตลาดของคุณจะสร้างหัวเรื่องใหม่ซึ่งคุณสามารถนำไปทดสอบและเทียบกับหัวเรื่องหลักได้

ซึ่งนี่เป็นกระบวนการที่คุณต้องพยายามเพื่อควบคุมผลลัพธ์ในส่วนนี้

 

3. คิดเชิงบวกในมุมมองของลูกค้า

ผู้คนชอบสัมผัสประสบการณ์ความรู้สึกในเชิงบวกเนื่องจากสิ่งเชิงบวกนั้นมักจะเกี่ยวข้องกับความสุข แต่คุณสามารถซื้อความสุขได้หรือเปล่า? บางทีคำตอบสั้น ๆ อาจใช่ถ้าคุณไปใช้บริการนวด… ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แต่ในแง่ธุรกิจแล้ว มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูกค้าของคุณอยากจะรู้สึกมีความสุขมากกว่าเศร้าแน่นอน ดังนั้นกุญแจสำคัญคือการสื่อสารด้วยความคิดเชิงบวก

เป็นเรื่องปกติที่ผู้คนจะรู้สึกทั้งอารมณ์บวกและลบตลอดทั้งวัน เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่อยากมีความสุข จริงไหม? หากข้อความของคุณสร้างความสุขให้กับลูกค้า มีหรือที่พวกเขาจะไม่ต้องการมันอีก นี่ยังไม่นับว่าพวกเขายังรู้สึกดีที่ได้แบ่งปันความสุขนั้นกับคนรอบข้างอีกด้วย

และนี่คือสามวิธีที่ Copywriter ด้านการตลาดสามารถรวมความคิดเชิงบวกนี้ไว้ใน Copy ของคุณ:

 

โฟกัสไปที่การแก้ปัญหา – หากคุณแก้ไขปัญหาที่ลูกค้าของคุณเผชิญอยู่และแสดงให้พวกเขาเห็นทางออก นั่นจะทำให้ลูกค้าของคุณเกิดความหวังและคิดบวกกับคุณ

ใช้ความเป็นกันเอง – หากคุณสื่อสารกับผู้อ่านโดยตรงด้วยคำที่พวกเขาใช้และความคิดที่พวกเขาคิด พวกเขาจะรู้สึกว่าคุณเข้าใจพวกเขา

ใช้คำพูดเชิงบวก – คำพูดเหล่านี้ช่วยให้เกิดความรู้สึกในแง่บวกภายในตัวลูกค้าของคุณ

เป้าหมายของการคิดบวกคือให้ลูกค้าของคุณปรารถนาที่จะเดินทางต่อไปกับคุณ และซื้อความรู้สึกเชิงบวกที่พวกเขาต้องการ และการเดินทางนั้นจะพาพวกเขาผ่าน Funnel ไปจบที่ Conversion ที่คุณได้กำหนดไว้สำหรับพวกเขา

 

บทสรุป

การจ้าง Copywriter ด้านการตลาดเป็นวิธีที่ดีวิธีหนึ่งในการเพิ่ม Conversion ในทุกขั้นตอนของ Funnel ของคุณ แม้ว่าจะมีจุดที่อัตรา Conversion ร่วงลงบ้าง แต่เมื่อ Copy และข้อความได้ถูกเพิ่มประสิทธิภาพในแต่ละจุด คุณจะเห็นอัตรา Conversion ที่สูงขึ้น ยอดขายมากขึ้น และเพิ่มรายได้ให้กับบริษัทของคุณ

คุณพร้อมหรือยังที่จะร่วมงานกับ Copywriter ด้านการตลาดมืออาชีพและเพิ่ม Conversion ของคุณ? ปรึกษาเราได้ที่นี่วันนี้