คุณจำเหตุการณ์ที่ผู้คนแย่งกันซื้อกระดาษชำระเพื่อกักตุนในช่วงเริ่มของการระบาดของ Covid19 ในต่างประเทศได้ไหม? คุณจะเห็นว่าชั้นวางของทุกห้างร้านนั้นว่างเปล่าเหมือนห้างร้านเหล่านี้กำลังจะปิดกิจการ แต่มันไม่ใช่แบบนั้น สินค้าเหล่านี้หายไปเพราะพวกเขาต่างซื้อเพราะความกลัว
พวกเขากลัวว่าจะมีข้าวของเครื่องใช้ไม่พอในช่วงล็อกดาวน์ ถ้าพวกเขาไม่ซื้อตอนนี้ ราคาอาจจะเพิ่มขึ้นในไม่ช้า และเนื่องจากคนอื่น ๆ ที่อยู่รอบตัวพวกเขาก็กลัวเช่นเดียวกัน มันก็ทำให้พวกเขายิ่งตื่นตกใจเข้าไปอีก
ความกลัวคือสิ่งที่ผลักดันให้ผู้คนตัดสินใจซื้อในทันทีโดยไม่ต้องคิด ด้วยเหตุนี้คุณจะมีลูกค้าที่ต้องการในสิ่งที่คุณมีอยู่มากขึ้น และคุณอาจจะต้องปฏิเสธพวกเขาเสียด้วยซ้ำเพราะไม่สามารถตอบสนองความต้องการของพวกเขาได้เร็วพอ
คงไม่มีใครที่ไม่อยากมีปัญหาแบบนี้ จริงไหม?
ที่กล่าวมานี้คือกระบวนการทำงานของการตลาดแบบสร้างความกลัวหรือ Scarcity เมื่อคุณใช้มันในสูตร Copy ของคุณอย่างถูกต้อง คุณจะทำให้ผู้คนควักกระเป๋าสตางค์ออกมาทันทีที่คุณส่งแคมเปญออนไลน์ออกไป
ไม่ว่าจะเป็นอีเมล โซเชียลมีเดีย หรือร้านอีคอมเมิร์ซ ผู้คนจะซื้อจากคุณหากคุณสามารถให้เหตุผลแก่พวกเขาว่าทำไมต้องซื้อเดี๋ยวนี้
สิ่งที่คุณต้องการมีเพียงแค่การปรับแต่งเล็กน้อยในสูตร Copy ของคุณและคุณก็จะเริ่มเห็น Conversion ของคุณเพิ่มขึ้น
ทำไมการใช้ความกลัวในสูตร Copy ของคุณถึงใช้ได้ผล
การเพิ่มความกลัวในสูตร Copy จะทำให้กลุ่มเป้าหมายต้องการบางสิ่งบางอย่างที่พวกเขาไม่สามารถมีได้
คิดง่าย ๆ ว่าเมื่อผู้คนเห็นบางสิ่งยิ่งมีน้อยหรือปริมาณที่จำกัดเท่าไร พวกเขาจะคิดไปเองว่าสิ่งนั้นยิ่งมีค่ามากขึ้นเท่านั้น
พวกเขาจะเห็นคุณค่ามากขึ้นในสิ่งที่คุณขายเนื่องจากปริมาณที่จำกัดหรือเวลาในการซื้อที่จำกัด ซึ่งวิธีนี้ใช้ได้ผลทุกครั้งไป (ถ้าคุณทำอย่างถูกต้อง)
คุณจะเห็นว่าการจำกัดสินค้าหรือบริการของคุณทำให้ผู้คนคิดว่ามันมีความพิเศษ ทำให้พวกเขาคิดไปเองว่ามันน่าจะคุ้มค่ากับคุณภาพในเมื่อมันหาซื้อได้ยาก
ความขาดแคลนยังเป็นเหมือนความกลัวที่จะถูกทิ้งหรือพลาดโอกาสหรือ FOMO (Fear Of Missing Out)
คนส่วนใหญ่เกลียดความรู้สึกแบบนี้เพราะไม่อยากพลาดโอกาสต่าง ๆ ที่เข้ามา เมื่อคุณนำบางสิ่งไปจากพวกเขา มันยิ่งจะทำให้พวกเขาต้องการมันมากขึ้นไปอีก
คุณเคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนไหม?
ทีนี้มันคืองานของคุณที่จะทำให้ถ้อยคำความกลัวนี้ที่สื่อออกมาอย่างชัดเจนในสูตร Copy ของคุณ และมันสามารถทำได้ง่าย ๆ อย่างไม่น่าเชื่อเพียงแค่ใส่ใน CTA ของคุณหรือในตอนท้ายของเว็บไซต์ของคุณ แต่… คุณต้องทำให้สื่อออกมาอย่างชัดเจนว่าหากผู้อ่านไม่ซื้อตอนนี้ พวกเขาอาจไม่เจอโอกาสแบบนี้อีกเลย
ต่อไปนี้เป็นกลยุทธ์ความกลัวหลัก ๆ 7 ประการที่สามารถใช้ในสูตร Copy ของคุณได้
1. สูตร Copy กลยุทธ์แบบ “แข่งขัน”
หากคุณเคยใช้ eBay มาก่อน คุณจะรู้ว่ามันมีตัวเลือกซื้ออยู่สามแบบคือ “รับข้อเสนอ” “ประมูล” และ “ซื้อเลยเดี๋ยวนี้”
คุณลองเดาดูว่าผู้คนจะเลือกตัวเลือกแบบไหนมากกว่ากัน?
ถูกต้องแล้ว… มันคือตัวเลือก “ประมูล” และในตัวเลือกนี้บน eBay ยังมีตัวเลือกซื้อเพิ่มเติมอีก ได้แก่
- แบบมีขั้นต่ำ
- แบบไม่มีขั้นต่ำ
- แบบมีซื้อเลย
- แบบไม่มีซื้อเลย
การประมูลดึงดูดผู้ซื้อได้มากกว่าเนื่องจากสินค้าที่ลงรายการประมูลมักจะเริ่มต้นด้วยราคาที่ต่ำ นั่นทำให้หลาย ๆ คนมีความหวังว่าพวกเขาอาจจะได้สินค้าในราคาถูก
เมื่อมีการเสนอราคา ผู้คนจะต้องปฏิบัติตามกติกาการประมูล หากเป็นสินค้าที่เป็นที่ต้องการ คุณจะเห็นการแข่งเสนอราคาอย่างมากมายเมื่อเวลาประมูลใกล้สิ้นสุดลง
คุณสามารถระบุจำนวนคนที่กำลังดูสินค้าของคุณได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน ซึ่งมันจะเป็น Social Proof ที่บ่งบอกว่าสินค้าของคุณควรที่จะเพิ่มมูลค่าหรือไม่
หากคุณกำลังใช้แคมเปญโฆษณาในการตลาดของคุณอยู่ คุณสามารถรวมสิ่งนี้ไว้ในสูตร Copy ของคุณได้โดยการเอ่ยว่าจะมีการลดราคาเร็ว ๆ นี้ แต่จะมีเพียง 100 คนแรกเท่านั้นที่จะซื้อได้ ซึ่งมันจะสร้างการแข่งขันและทำให้กลุ่มเป้าหมายจับตาดูสินค้าของคุณ
2. สูตร Copy กลยุทธ์แบบ “กำหนดเส้นตาย”
กลยุทธ์นี้ยังรู้จักกันในนามกลยุทธ์จำกัดเวลา
หากคุณได้ลงทะเบียนรับข้อเสนอรายวัน ลดราคาวันหยุด หรือลดล้างสต็อก คุณคงจะเคยเห็นกลยุทธ์แนวนี้มาก่อนในสูตร Copy ของบริษัทอื่นพอสมควร
Starbucks เป็นตัวอย่างที่ดีเนื่องจากพวกเขามักจะคิดหาวิธีทำเครื่องดื่มใหม่ ๆ ออกมาเพื่อขาย นอกเหนือจากกาแฟที่ขายตามปกติ พวกเขาจะทำเครื่องดื่มผสมรูปแบบใหม่ตามฤดูกาลแบบมีระยะเวลาจำหน่ายที่จำกัดเท่านั้นอีกด้วย
คุณจะเห็นว่าคุณสามารถซื้อเครื่องดื่มนี้ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ถ้าหากว่าพวกเขานำเครื่องดื่มนี้มาขายเหมือนเมนูปกติ ก็คงจะไม่มีใครสนใจเครื่องดื่มนี้เท่าไร จริงไหม?
หากคุณอยู่ในตลาดอีคอมเมิร์ซ การลดราคาสินค้าจะทำให้ผู้คนรู้สึกไม่มีเวลาในการตัดสินใจมากนัก อาจมีคนอื่นซื้อสินค้าตัดหน้าไปก่อนที่การลดราคาจะสิ้นสุดลงและสินค้าเหล่านี้อาจไม่มีจำหน่ายอีกต่อไปก็เป็นได้ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ต้องตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
คุณสามารถเอ่ยสิ่งเหล่านี้ในสูตร Copy ของคุณ
- ข้อเสนอพิเศษ 5 วันเท่านั้น
- ภายใน 24 ชั่วโมงนี้เท่านั้น
- ลดมากถึง 50% ถึงอาทิตย์นี้
- ข้อเสนอพิเศษสำหรับวันนี้เท่านั้น
- ยังพอมีเวลาสำหรับของขวัญวันแม่
- ลดล้างสต็อกครั้งใหญ่
วิธีที่ดีที่สุดในการใช้กลยุทธ์กำหนดเส้นตายในแคมเปญออนไลน์ของคุณคือการเพิ่มตัวนับเวลาถอยหลัง ในอีเมลของคุณก็สามารถทำได้เช่นกัน การเพิ่มสิ่งนี้จะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าเหลือเวลาอีกเท่าไรสำหรับข้อเสนอแบบมีเวลาจำกัดของคุณ
3. สูตร Copy กลยุทธ์แบบ “ข้อเสนอพิเศษ”
กลยุทธ์นี้เน้นไปที่การลดราคาและการใช้ส่วนลดในสูตร Copy เพื่อเพิ่มยอดขาย
ก่อนอื่นคุณควรระวังไม่ควรใช้กลยุทธ์ส่วนลดมากจนเกินไป เพราะเป้าหมายของคุณคือการเน้นที่คุณภาพเพื่อเพิ่มชื่อเสียงของแบรนด์ให้ดีขึ้น
ดังคำกล่าวที่ว่า…
“รู้ว่าคุณมีคุณค่าอะไรนำเสนอ และหยุดให้ส่วนลดแก่ผู้คน”
คุณต้องหาสมดุลที่เหมาะสมให้เจอเมื่อคุณต้องลดราคาเพื่อเพิ่มยอดขาย หากคุณเสนอส่วนลดให้กับพวกเขาอย่างต่อเนื่อง มันจะเป็นการทำให้คุณค่าของสินค้าหรือบริการของคุณต่ำลง
วิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำกำไรจากการลดราคาคือการเปิดตัวสินค้าใหม่โดยคุณสามารถให้เหตุผลว่าสินค้ายังอยู่ในช่วงการทดสอบ
มันจะทำให้ผู้คนคิดว่าคุณกำลังจะมีสินค้าที่น่าทึ่งและคุณต้องการลูกค้าพิเศษเพื่อทดลองใช้ก่อนใคร และเพื่อจูงใจให้พวกเขาซื้อ คุณก็ให้ส่วนลดเป็นสิ่งจูงใจ เนื่องจากมันเป็นสินค้าใหม่ คุณจึงยังไม่มีรีวิวหรือ Testimonial มาแสดง นั่นหมายความว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะไม่เชื่อถือในสิ่งที่คุณขายและพวกเขาจะรู้สึกระแวงขึ้นมาทันที
คุณสามารถโปรโมตสินค้าใหม่ของคุณในรูปแบบ Early Bird หรือ Pre-Sale ในสูตร Copy ของคุณได้ คุณสามารถพูดประมาณว่า “อีกไม่กี่ชั่วโมงจะหมดเขตซื้อในราคา Early Bird นี่เป็นโอกาสสุดท้ายของคุณที่จะได้ราคาถูกสุด ๆ นี้ ซื้อเลยและประหยัดทันที”
มันเป็นการบอกผู้คนว่านี่เป็นข้อเสนอเพียงครั้งเดียวเพื่อให้พวกเขาตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
4. สูตร Copy กลยุทธ์แบบ “กำลังจะหมดอายุ”
คำว่า “กำลังจะหมดอายุ” อาจฟังดูเหมือนกลยุทธ์แบบ “กำหนดเส้นตาย” แต่แตกต่างกันตรงที่มันมีความเร่งด่วนมากกว่า
ตัวอย่างที่มองเห็นง่ายที่สุดในกรณีนี้คือประโยคต่อไปนี้ซึ่งคุณอาจเคยเห็นผ่านตามาบ้างแล้ว
“อยากได้สินค้าพรุ่งนี้เลยใช่ไหม? สั่งภายใน 20 นาทีนี้พร้อมจัดส่งภายในวันเดียว”
เมื่อคุณใช้กลยุทธ์นี้ในสูตร Copy ของคุณ มันจะทำให้คุณได้เปรียบกว่าคู่แข่ง และเมื่อผู้คนเห็นว่าเวลาใกล้จะหมด มันทำให้พวกเขาไม่มีเวลาคิดและตัดสินใจซื้อในที่สุด
นอกจากนี้คุณจะขายได้เร็วขึ้นอีกเพราะลูกค้าอยากได้รับสินค้าทันทีที่สั่ง ยิ่งเร็วเท่าไรยิ่งดี นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้ขายบนเว็บไซต์ Amazon สามารถขายดิบขายดีในตลาดอีคอมเมิร์ซเนื่องจากพวกเขาเสนอตัวเลือกการจัดส่งฟรีและรวดเร็วทันใจ
ในโลกปัจจุบัน ผู้ซื้อมีความอดทนน้อยลงกว่าเดิม จากงานวิจัยของหน่วยงานมือถือ Fetch พบว่าผู้คนกว่า 38% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเทคโนโลยีทำให้พวกเขามีความอดทนน้อยลงเมื่อเทียบกับห้าปีก่อน
หากคุณไม่สามารถทำให้พวกเขาซื้อได้เลยทันที โอกาสที่พวกเขาจะลืมมันแล้วไม่คิดถึงมันอีกมีค่อนข้างสูงทีเดียว นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณจึงควรดึงดูดความสนใจของพวกเขาด้วย Copy ของคุณและทำให้พวกเขาไม่หนีไปไหนจากหน้าเพจคุณ
5. สูตร Copy กลยุทธ์แบบ “จำนวนจำกัด”
เราได้กล่าวถึงข้อเสนอแบบจำกัดเวลาไปแล้วข้างต้น ทีนี้เราจะมาเจาะลึกข้อเสนอแบบจำกัดจำนวนกันบ้าง
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างบางส่วนของข้อเสนอเหล่านี้ว่าจะมีลักษณะอย่างไรบนโฆษณา
- 3 ชิ้นสุดท้ายเท่านั้น!
- เหลือ 5 ที่นั่งสุดท้ายสำหรับรอบนี้
- ตอนนี้เราเหลือตั๋วเพียง 10 ที่เท่านั้น
- จำกัดเพียง 1,000 คน
- สำหรับผู้ได้รับเชิญเท่านั้น
เป้าหมายคือการบอกกลุ่มเป้าหมายของคุณว่าสิ่งที่คุณขายนั้นใกล้จะหมดแล้ว ให้รีบซื้อด่วน เมื่อโอกาสในการเลือกซื้อของพวกเขามีน้อยลง พวกเขาจะรู้สึกสูญเสียอิสระในการเลือกซื้อ
ในตอนนี้ตัวเลือกอาจมีให้เลือกแค่ “เอา” เดี๋ยวนี้หรือ “ไม่เอา” หากพวกเขามัวแต่คิดตัดสินใจอยู่ โชคอาจจะไม่เข้าข้างพวกเขาเมื่อถึงเวลาที่ตัดสินใจได้ แต่ของที่ต้องการหมดไปเสียแล้ว นั่นอาจกล่าวได้ว่าเมื่อมีอิสระในการเลือกน้อยลง กลุ่มเป้าหมายของคุณจะมีแนวโน้มที่จะซื้อมากขึ้น
หากคุณกำลังขายของให้กับผู้คนในลิสต์อีเมลของคุณ คุณอาจพูดประมาณว่าสินค้ายอดนิยมของคุณขายหมดอย่างรวดเร็ว และสิ่งที่จะช่วยให้ผู้คนตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วคือการเพิ่มคีย์เวิร์ด “เดี๋ยวนี้” เข้าไป อย่างเช่น “ซื้อเดี๋ยวนี้” หรือ “ซื้อเลย”
และเมื่อคุณกำลังขายสินค้าบนเว็บไซต์ คุณควรระบุจำนวนสินค้าที่มีอยู่ในสต็อก เพราะมันสามารถสร้างความรู้สึกเร่งด่วนได้เมื่อกลุ่มเป้าหมายเห็นจำนวนสินค้าที่มีอยู่ในสต็อกลดลงต่อหน้าต่อตา
สมมติว่าคุณกำลังมองหาห้องพักโรงแรมสำหรับทริปวันหยุด แต่แล้วคุณไปเห็นโรงแรมที่โชว์ว่าเหลือห้องพักห้องสุดท้ายให้คุณจองได้ คุณจะรู้สึกอย่างไร? คุณรู้สึกต้องการห้องนั้นมากกว่าห้องของโรงแรมอื่นหรือเปล่า?
เคยสงสัยไหมว่าเพราะอะไร?
คุณอาจคิดว่าทำไมจึงเหลือห้องพักเพียงห้องเดียว มันอาจเป็นห้องที่เป็นที่ต้องการของใครหลาย ๆ คนเพราะรีวิวดี ราคาได้ หรือปัจจัยอื่น ๆ ซึ่งนั่นอาจเป็นเหตุผลให้ห้องในโรงแรมนี้เป็นที่ต้องการสูง และคุณก็ไม่อยากพลาดโอกาสเช่นนั้น
กลยุทธ์นี้ยังใช้ได้ดีกับผู้ที่กดสินค้าลงตะกร้าทิ้งไว้แต่ไม่ได้ทำการชำระเงินเช่นกัน ในกรณีนี้การแจ้งเตือนผ่านอีเมลถึงพวกเขาคือวิธีที่ดีวิธีหนึ่ง
ในอีเมลคุณสามารถบอกพวกเขาประมาณว่าสินค้าที่มีในตะกร้ากำลังขายหมดอย่างรวดเร็ว หากพวกเขายังลังเลใจที่จะซื้อ พวกเขาต้องรีบตัดสินใจก่อนของจะหมด
6. สูตร Copy กลยุทธ์แบบ “หาที่ไหนไม่ได้”
การขายสินค้าแบบมีหนึ่งเดียวหรือหาที่ไหนไม่ได้นั้นมีกลยุทธ์ทั้งแบบจำกัดเวลาและจำกัดจำนวนเนื่องจากมันเป็นสิ่งของหายากหรือทำขึ้นมาพิเศษ ซึ่งสินค้าเหล่านี้อาจมีการวางจำหน่ายเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและอาจมีจำนวนจำกัดในสต็อก
ตัวอย่างของกลยุทธ์แนวนี้คือการร่วมจัดงานของบุคคลหรือบริษัทขึ้นมาเป็นพิเศษ คุณลองจินตนาการว่าศิลปินที่คุณชื่นชอบทั้งหมดมารวมอยู่ในห้องเดียว หากคุณได้ตั๋วใบนี้มาเพื่อที่จะไปพบพวกเขา คุณคงจะรู้สึกว่านี้เป็นโอกาสและประสบการณ์ที่หายากสำหรับคุณ จริงไหม?
จุดประสงค์ของสินค้าแนวนี้คือการให้ผู้คนคิดว่านี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะมีโอกาสซื้อ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะมีมาอีกไหมหากพลาดโอกาสนี้ไป นั่นคือเหตุผลที่ผู้คนต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มันมา
คุณสามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ร่วมเข้าไปกับการขายแนวนี้ได้ อย่างเช่น คุณลองหาว่าอะไรที่กลุ่มเป้าหมายของคุณชอบและนำมันมามัดรวมกันเป็นแพ็กเกจเดียว ซึ่งสิ่งที่ได้คือทำให้มันขายง่ายขึ้นและเป็นที่ต้องการมากขึ้น
7. สูตร Copy กลยุทธ์แบบ “พลาดไปแล้ว”
เมื่อมันสายเกินไปสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่จะซื้อ กลยุทธ์แบบนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณพลาดแล้วจริง ๆ หากพวกเขาต้องการซื้อ พวกเขาต้องรอครั้งหน้าเมื่อมีจำหน่ายอีกครั้ง
และนี่คือสิ่งที่คุณสามารถเอ่ยได้ในสูตร Copy ของคุณ
- กลับมาเช็กเพิ่มทุก ๆ ชั่วโมง
- คุณพลาดโอกาสไปแล้ว
- ไม่มีสินค้าในขณะนี้
- สินค้าหมด
- ลงชื่อรอสินค้า
วลีเหล่านี้จะทำให้สินค้าหรือบริการของคุณมี Social Proof ทันที กรณีนี้มันทำให้ดูเหมือนว่าใคร ๆ ก็จับตาดูเพจของคุณอยู่และซื้อสินค้าของคุณ ดังนั้นมันทำให้กลุ่มเป้าหมายคิดว่าสินค้าของคุณต้องเจ๋งจริง ๆ นั่นเอง
สิ่งที่คุณต้องทำต่อไปคือให้โอกาสกลุ่มเป้าหมายในการซื้อครั้งต่อไป โดยให้พวกเขารับการแจ้งเตือนทางอีเมลหรือให้ลงทะเบียนเพื่อทำการจอง
แนะนำให้แสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าสินค้าของคุณหมดแทนที่จะลบสินค้าเหล่านั้นออกไปจากเพจของคุณ นอกจากนี้อย่าลืมประกาศว่าคุณจะเติมสต็อกอีกครั้งเมื่อใดและเพื่อเป็นการเตือนกลุ่มเป้าหมายของคุณด้วยว่าสินค้านี้เคยหมดไปอย่างรวดเร็วแค่ไหน ดังนั้นพวกเขาจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อซื้ออย่างรวดเร็วทันทีสำหรับการวางจำหน่ายครั้งหน้า
สูตร Copy ที่สร้างยอดขายทันทีที่เอาไปใช้
ความกลัวเป็นสิ่งทรงพลัง
เมื่อคุณรวม 7 กลยุทธ์เหล่านี้เข้าด้วยกันลงในสูตร Copy ของคุณแล้ว ยอดขายของคุณจะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น
แนวคิดหลัก ๆ คือการทำให้กลุ่มเป้าหมายของคุณเชื่อว่าสิ่งที่คุณมีนั้นเป็นของคุณภาพสูงและเป็นที่ต้องการ คุณสามารถแสดงให้พวกเขาเห็นได้โดยการจำกัดเวลาในการซื้อและจำนวนสินค้าที่คุณขาย
เมื่อผู้คนไม่สามารถมีในสิ่งที่ต้องการได้ พวกเขาก็จะต้องการมันมากขึ้นไปอีก นี่คือสิ่งที่ควรคำนึงถึงในขณะที่คุณสร้างแคมเปญออนไลน์ของคุณ
มันยังช่วยในเรื่องของ Social Proof หากคุณสามารถแสดงสิ่งนี้ในการตลาดของคุณ การใช้การนับเวลาถอยหลังหรือแสดงจำนวนสินค้าคงเหลืออยู่ในสต็อกก็เป็นวิธีที่ดีทีเดียว
หากคุณทำให้สินค้าหรือบริการของคุณสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา ผู้คนก็จะซื้อเมื่อใดก็ได้ ซึ่งคุณไม่ต้องการแบบนั้น เป้าหมายของคุณคือให้พวกเขาซื้อทันที
หากคุณต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมถึงวิธีเริ่มต้นเขียน Copy ที่สร้างรายได้หรือยอดขายทันที คลิกที่นี่ได้เลย